ปริศนาชีวิต ! สาววัย 44 ตามหา “พ่อบุญธรรม” คนขับแท็กซี่ที่ใจดีให้ใช้นามสกุลมาตลอด

คนขับแท็กซี่

ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย เรื่องราวสุดเหลือเชื่อที่กำลังเป็นไวรัลอยู่ในขณะนี้ คือกรณีของหญิงสาววัย 44 ปี ที่ออกมาประกาศตามหา “คนขับแท็กซี่” ผู้มีพระคุณคนหนึ่ง ซึ่งเคยช่วยเหลือแม่ของเธอให้คลอดบุตรที่โรงพยาบาล และที่สำคัญคือ ยังได้เซ็นรับรองบุตรและให้เธอใช้นามสกุลของเขาตั้งแต่เกิดมาจนถึงปัจจุบัน เรื่องราวความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดนี้จะเป็นอย่างไร มาติดตามกัน

ยิ่งกว่าละคร! สาวประกาศตามหาคนขับแท็กซี่ “พ่อบุญธรรม” อนุญาตให้ใช้นามสกุลพร้อมเซ็นรับรองบุตร 

เรื่องราวสุดประทับใจที่กำลังเป็นกระแสในโลกโซเชียล เมื่อหญิงสาวรายหนึ่งออกมาประกาศตามหา “คนขับแท็กซี่” ผู้มีพระคุณ ที่เคยช่วยเหลือแม่ของเธอให้เดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อคลอดลูก และที่สำคัญคือได้เซ็นรับรองบุตรและให้ใช้นามสกุลของตนเองมาโดยตลอด จนกระทั่งปัจจุบันเธอมีอายุถึง 44 ปีแล้ว

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 44 ปีก่อน เมื่อแม่ของหญิงสาวคนดังกล่าวตั้งครรภ์โดยไม่สมัครใจ และตัดสินใจหนีออกจากบ้านมาทำงานเป็นคนใช้ เพื่อรอวันคลอดลูก ก่อนจะตัดสินใจมอบลูกให้กับยายเพื่อชดใช้ความผิดที่เคยทำ แต่ด้วยความบังเอิญที่ไม่คาดคิด แม่ของเธอได้ขึ้นแท็กซี่คันหนึ่งเพื่อไปโรงพยาบาล และคนขับใจดีคนนั้นได้ช่วยเหลือเธอเป็นอย่างดี จนกระทั่งลูกคลอดออกมา คนขับผู้นี้ยังได้เซ็นรับรองบุตรและให้ใช้นามสกุลของตนเองอีกด้วย

เรื่องราวของหญิงสาวผู้ตามหาพนักงานขับรถแท็กซี่ผู้เป็นพ่อทางกฎหมาย เป็นเรื่องราวที่สร้างความประทับใจและสะเทือนใจให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก เรื่องราวนี้แสดงให้เห็นถึงความดีงามของมนุษย์ และความสำคัญของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่เกิดจากสายเลือด หรือครอบครัวที่เกิดจากความเมตตาและการดูแลเอาใจใส่

คนขับแท็กซี่

ไขข้อสงสัย คนขับแท็กซี่กรณีนี้สามารถเซ็นรับรองบุตรและอนุญาตให้หญิงสาวใช้นามสกุลได้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ 

            เหตุการณ์ที่คนขับแท็กซี่ได้เซ็นรับรองบุตรและอนุญาตให้ลูกของผู้โดยสารของตนใช้นามสกุลนั้น กลายเป็นที่สงสัยว่าในความเป็นจริงแล้วเราสามารถทำแบบนั้นได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ตามกฎหมายไทย การรับรองบุตรโดยบุคคลภายนอกที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดโดยตรงกับเด็กนั้น มีความซับซ้อนและต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมายที่เข้มงวด โดยรายละเอียดมีดังนี้ 

  • ความสัมพันธ์ทางสายเลือด: โดยทั่วไป การรับรองบุตรมักเกิดขึ้นระหว่างคู่สมรส หรือระหว่างบุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเด็ก เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย หรือญาติสนิท
  • เหตุผลในการรับรองบุตร: กฎหมายกำหนดเหตุผลในการรับรองบุตร เช่น การที่บิดามารดาแท้ๆ เสียชีวิต หรือไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรได้
  • กระบวนการทางกฎหมาย: การรับรองบุตรต้องดำเนินการผ่านศาล และต้องมีการพิจารณาประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ
  • ความยินยอมของบิดามารดา: หากบิดามารดาแท้ๆ ยังมีชีวิตอยู่ จะต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดาทั้งสองในการรับรองบุตร

ในกรณีดังกล่าวที่พนักงานขับแท็กซี่ที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเด็ก และไม่มีหลักฐานยืนยันว่าบิดามารดาแท้ๆ ของเด็กเสียชีวิตหรือไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรได้ การกระทำดังกล่าวอาจ ไม่เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย และอาจทำให้การรับรองบุตรเป็นโมฆะได้ อย่างไรก็ตาม การที่พนักงานขับแท็กซี่รายนี้ยอมรับเด็กเป็นบุตรและให้ใช้นามสกุลของตนเอง ถือเป็นการกระทำที่น่าชื่นชมและแสดงให้เห็นถึงความเมตตาจิตอันสูงส่ง แต่ในทางกฎหมายอาจมีความซับซ้อนและจำเป็นต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม

Published: By